วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดนตรีเด็กเล็ก


เวลาที่พูดถึงดนตรี เราก็จะคิดถึงดนตรีว่าเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการสร้างสีสันให้กับชีวิต แต่จากการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ค้นพบว่าการปลูกฝังดนตรีให้กับเด็กๆ ตั้งแต่ยังเล็กนั้นจะช่วยพัฒนาความสามารถของเจ้าตัวเล็กในหลายๆ ด้าน เช่น ภาษา คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์  หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่ดนตรีจะช่วยพัฒนาศักยภาพต่างๆ ได้ เราลองมาดูกันดีกว่า ว่าสมองของคนเรานั้นทำหน้าที่อย่างไรกัน สมองคนเราจะเริ่มพัฒนาตั้งแต่วัยทารก ในวัยนี้เซลล์สมองจะเริ่มทำการขยายกิ่งก้านสาขาออกไป ซึ่งเซลล์เหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นมาเมื่อมีสิ่งกระตุ้นต่างๆ เข้ามา ยิ่งเด็กทารกได้รับการกระตุ้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะเป็นผลดีกับการขยายตัวของเซลล์สมองมากขึ้น
การที่คุณพ่อ คุณแม่ เปิดโอกาสให้เจ้าตัวเล็กได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ จะเป็นการดีต่อเซลล์สมองของลูกน้อยที่จะแตกกิ่งก้านสาขาออกไป ซึ่งจะเป็นรากฐานที่ดีสำหรับลูกน้อยในอนาคต  ในการค้นคว้ายังพบว่าเด็กทารกแม้จะยังอยู่ในครรภ์แม่ จะคุ้นเคยกับเสียงๆ หนึ่งตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เสียงที่เด็กได้ยินจะเป็นเหมือนเสียงเพลง เป็นเรื่องแปลกถ้าเกิดคุณพ่อ คุณแม่ เปิดเพลงที่คล้ายๆ กับเสียงในครรภ์คุณแม่ เจ้าตัวเล็กจะหยุดกิจกรรมต่างๆ และตั้งใจฟังเสียงนั้นๆ
เด็กเล็กๆ ที่อายุประมาณ 3 เดือนจะเป็นช่วงวัยที่จะทำการเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ เข้ากับดนตรี คุณพ่อ คุณแม่อาจจะประหลาดใจไปมากกว่านี้ก็ได้ ถ้ารู้ว่า เจ้าตัวเล็กในวัยนี้สามารถแยกแยะเสียงเพลง และทำนองที่แตกต่างกันได้แล้ว นอกจากนี้เค้ายังสามารถที่จะเลียนเสียงเหล่านั้นได้อีกด้วย จะเห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าตัวเล็กนั้นจะจำลักษณะประโยคต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงสูง เสียงต่ำสลับกันไป เด็กๆ จะสนใจในเพลงที่มีท่วงทำนองง่ายๆ มากกว่าท่วงทำนองที่สลับซับซ้อน ผลจากการวิจัยได้มีการบรรเลงเพลง Mozart ให้เจ้าตัวเล็กทั้งหลายฟัง จะเห็นได้ว่า เด็กๆ จะให้ความสนใจกับท่อนจบแบบง่ายๆ มากกว่าช่วงอื่นๆ
ช่วงสำคัญในการเรียนรู้ดนตรีคือช่วงที่เจ้าตัวน้อย เริ่มฮัมเพลงได้ ซึ่งจะเกิดในช่วง 6 ปีแรก ซึ่งก็เป็นช่วงเดียวกันกับที่เจ้าตัวน้อยเริ่มหัดพูดเป็นประโยค และช่วงนี้เองสมองจะเริ่มเรียนรู้ถึงความแตกต่างของเสียง เจ้าตัวเล็กจะเรียนรู้เสียงต่างๆ โดยการจินตนาการภาพของดนตรีในลักษณะที่แตกต่างกันไป  ซึ่งมันคือความสามารถในการสร้างภาพขึ้นมาในใจเพื่อแทนตัวอักษร หรือคำ และนั่นก็คือการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพทางดนตรีและภาษา
เด็กๆ จะเรียนรู้ดนตรีผ่านการร้อง และการเต้น หรือการแสดงออกทางท่าทาง การที่จะพัฒนาศักยภาพทางดนตรีให้ดีขึ้นนั้นควรจะเริ่มด้วยการฝึกให้ลูกน้อยได้ฟังเพลงและร้องเพลงตั้งแต่ยังเล็กๆ เพราะเค้าจะสามารถเห็นถึงความสัมพันธ์ของท่วงทำนอง และระดับเสียงที่แตกต่างกัน  ถึงแม้ว่าเจ้าตัวเล็กจะมีทักษะการฟังและการจับจังหวะที่ดี  แต่ไม่ได้ถูกฝึกให้ร้องเพลงมาเด็กๆก็จะไม่สามารถร้องเพลง หรือเปล่งเสียงออกมาได้อย่างถูกต้อง  ผลการสำรวจพบว่าในเด็กอนุบาลมีอัตราความสามารถในการร้องเพลงลดลง ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากการไม่ได้เห็นความสำคัญในการฝึกให้เด็กๆ ร้องเพลงในช่วงขวบปีแรกๆ
การที่จะให้เด็กๆ สามารถจินตนาการภาพขึ้นมานั้น จะต้องเริ่มด้วยการให้เด็กได้เรียนรู้ และสัมผัสเครื่องดนตรีเหล่านั้นด้วยตัวเอง ถ้าเจ้าตัวน้อยไม่ได้มาสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่ยังเล็ก การที่จะให้เด็กมาเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับดนตรีตอนโตนั้นจะเป็นการยากกว่า โดยส่วนใหญ่กล้ามเนื้อต่างๆ จะถูกสร้างขึ้นในช่วง 5 ปีแรก หลังจากนั้นจะเป็นการเสริมสร้างให้กล้ามเนื้อเหล่านั้นแข็งแรงมากขึ้น จากการวิจัยพบว่าเด็กส่วนใหญ่ในวัยเรียนไม่สามารถเดินให้เข้ากับจังหวะดนตรีได้ หรือไม่สามารถใช้ภาษาในการจัดกลุ่มการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ เนื่องจากเด็กๆ ไม่ค่อยมีการทำกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้





วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เจตนา

blogนี้อยากจะทำเพื่อ  แบ่งปัน  ความรู้
                                   แบ่งปัน  ประสบการณ์
                                   แบ่งปัน  ความทุกข์
                                   แบ่งปัน  ความสุข
และรวมถึงการแสดงความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิต